ติดในวัตถุมงคลก็ดีกว่าติดในวัตถุอัปมงคล

ดังนั้น..ที่อาตมายอมเสียสตางค์ทีละมาก ๆ หามาให้แก่ญาติโยมทั้งหลายก็เพื่อเป็นอนุสติ เพื่อเป็นการปฏิบัติ เพราะไม่ว่าการเดินทางไปในที่ใดก็ตาม ถ้ามีสิ่งให้ยึดให้เกาะก็จะปลอดภัยมากกว่า

การปีนเขาก็ดี การขึ้นบันไดก็ดี ถ้ามีที่ให้ยึดให้เกาะ ก็จะปลอดภัยกว่าคนที่ไม่ยอมยึดไม่ยอมเกาะ จำไว้ว่าเราต้องยึดก่อน เราถึงจะมีสิ่งที่ปล่อยวางได้ ถ้าเราไม่ยึดก่อนจะเอาอะไรมาวาง ทุกคนที่บอกว่าอนัตตา ๆ ไม่เอาอะไร ๆ นั้น เขาก็ยึดถือตัวไม่เอาอะไร ยึดคำว่าอนัตตานั้นแหละ

จำไว้ว่า ถ้ายังไม่มีอัตตาก็จะหาอนัตตาไม่ได้ จะต้องมีอัตตาขึ้นมาก่อน ถึงจะวางลงเป็นอนัตตาได้ เหมือนกับที่เราขึ้นมาบนห้องนี้ เราเดินขึ้นบันได เราเกาะบันไดมาด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทตามคำที่พระพุทธเจ้าท่านสอน พอเราเดินมาถึงหน้าประตู เปิดประตูเข้ามา เราได้แบกราวบันไดเข้ามาหรือไม่ ? เราก็ไม่ได้แบกราวบันไดมาด้วย…ฉันใดก็ฉันนั้น

ถ้าไม่มีสิ่งให้ยึดเกาะ เราก็ไม่มีอะไรให้ปล่อยวาง เราต้องรู้จักยึดก่อนถึงจะรู้จักวาง พระพุทธเจ้าท่านเปรียบเอาไว้ว่า เหมือนกับแม่ลูกลงไปงมจับปลา ลูกชายจับได้หัวงูกำไว้แน่นเลย “แม่ ๆ ได้ปลาตัวเบ้อเร่อเลย” แม่..คือครูบาอาจารย์เห็นเข้าก็

“เออ…ดีไอ้หนู ลูกกำให้แน่น ๆ เดี๋ยวจะหลุดไป” เพื่อไม่ให้ลูกตกใจ แล้วพอเสร็จแล้วลูกกำแน่นดีแล้ว

“ไอ้หนูขึ้นฝั่งไปลูก เสร็จแล้วดึงหางออกมา สลัดไปไกล ๆ เลยลูก” พอลูกเหวี่ยงทิ้งไปเสร็จเรียบร้อยแล้วก็บอก

“นั่นงูพิษนะลูก คราวหน้าอย่าไปจับอีก” ถ้าไม่กำให้แน่นตายไหมตอนนั้น ?…ตาย…ไม่เหลือหรอก…ก็ลักษณะเดียวกัน เพราะฉะนั้น..เราต้องยึดก่อน หลังจากนั้นแล้วจึงปล่อย

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ วันเสาร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

ที่มา : เว็บวัดท่าขนุน